นอสตราดามุสกับคำทำนายโลกแห่งอนาคต

รูปภาพ
นอสตราดามุส แห่งบัลแกเรีย           นอสตราดามุส หรือ มิเชล เดอ นอสตราดาม (Michel de Nostredame) เป็นแพทย์และโหราจารย์ชื่อดังชาวฝรั่งเศส เชื้อสายยิว           เกิดวันที่ 14 ธันวาคม ค.ศ. 1503 ที่เมืองแซงต์ เรมี ในครอบครัวนายทะเบียนผู้รุ่งเรืองของเมือง           นอสตราดามุสจบการศึกษาด้านการแพทย์ จากมหาวิทยาลัยมองต์เปลีเยร์ ปี ค.ศ. 1525 เสียชีวิตเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ค.ศ 1566 ด้วยโรคเกาต์ นอสตราดามุสกับคำทำนายโลกแห่งอนาคต           นอสตราดามุส เป็นชาว ฝรั่งเศส มีชื่อเต็มว่า “ไมเคิล เดอ นอสเตรอดัม (Michel de Nostredame) ” ผู้นี้คือผู้ซึ่งได้รับการขนานนามจากชาวโลกว่าเป็น “ราชาโหรโลก” หรือ “ปรมาจารย์แห่งโหราศาสตร์เอกของโลก” ผู้คนรู้จักเขาในชื่อที่เป็นภาษาละตินว่า “นอสตราดามุส” (NOSTRADAMUS)           เขาเกิดเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ค.ศ. 1503 ตามแบบปฏิทินจูเลียนโบราณ ซึ่งตรงกับวันที่ 23 ธันวาคม ค.ศ. 1503 สมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 12 (ค....

9 ตำนานเรื่องเล่าโรงเรียนผี ที่หลอนที่สุด

วันนี้ผมจะมานำเสนอ 9 ตำนานเรื่องเล่าโรงเรียนผี ที่หลอนที่สุดในไทย ที่ทำให้คุณหลอนจนนอนไม่หลับ ไม่ใช่มีแค่โรงเรียนเท่านั้นแต่รวมไปถึงมหาวิทยาลัยอีกด้วย และจะมีที่ไหนกันบ้าง ดูต่อได้เลยครับ




1. ลิฟท์แดง





          เรื่องหลอนของ "ลิฟท์แดง" มาจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง มีเรื่องเล่าว่าในช่วงเหตุการ 14 ตุลาคม 2516 มีความขัดแย้งทางการเมือง นักศึกษาจึงเข้าไปหลบไปในลิฟท์ตัวนั้น แต่เมื่อลิฟท์เปิดประตูออก ทหารได้กระหน่ำยิงนักศึกษาที่อยู่ในลิฟท์จนเลือดสาด นักศึกษาทั้งหมดที่อยู่ในลิฟท์ทั้งหมดนั้นได้เสียชีวิตลงจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น





          ในเวลาต่อมาทางมหาวิทยาลัยได้ทำความสะอาดลิฟท์ตัวนั้น แต่ไม่ว่าจะล้างยังไงคราบเลือดก็ออกไม่หมด ทางมหาวิทยาลัยจึงหาทางออกด้วยการทาลิฟท์ให้เป็นสีแดง หลังจากที่ลิฟท์ตัวนี้ได้นำกลับมาใช้ตามปกติ บางครั้งนักศึกษาเล่าว่าเห็นคนอื่นอยู่ในกระจกลิฟท์ หรือบางครั้งนักศึกษาก็เห็นว่ามีรอยเลือกไหลเป็นทาง




2. อิฐ 9 ก้อน





          ว่ากันว่ามหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศไทย จะมีอิฐจำนวนหนึ่งเผยอขึ้นมา ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน หรือจะปรับปรุงพื้นที่ไปเท่าไหร่ "อิฐก้อนนั้น" ก็ยังคงเผยอขึ้นมาอยู่ดี จึงมีเสียงเล่าลือกันมาว่า ห้ามเหยียบอิฐก้อนนั้นเป็นอันขาด เพราะว่ากันว่ามีนักศึกษาชายคนหนึ่งทะเลาะกับแฟนว่าจะเลิกกัน ฝ่ายชายจึงกระโดดตึกตรงบริเวณอิฐก้อนนั้น




3. แดนประหารลานทรงพล





          ลานทรงพลบริเวณคณะอักษรศาสตร์ของมหาวิทยาลัยที่ตั้งอยู่บริเวณเขตพระราชวัง ก่อนจะมาเต็มไปด้วยต้นไม้ร่มรื่นในปัจจุบัน ที่แห่งนี้เคยเป็นลานประหารนักโทษ
          ซึ่งวิธีที่ใช้ในการประหารนักโทษที่ใช้กันมากที่สุดในยุคนั้น คือการตัดหัวนักโทษให้ขาดภายในดาบเดียว ด้วยเหตุนี้จึงมีเรื่องเล่าที่เล่าต่อ ๆกันมา บ้างก็ว่าเห็นเงาประหลาดที่สูงใหญ่กำลังฟันคอของนักโทษให้ขาดกระเด็น บ้างก็ว่าเห็นผู้มายืนอยู่บริเวณตรงนี้ในยามค่ำคืน




4. มหาวิทยาลัยย่านเมืองเอก






          เป็นอีกหนึ่งที่ที่ขึ้นชื่อเรื่องความหลอนและความเฮี้ยน ติดอับดับต้น ๆเรื่องฮวงจุ๊ยที่ไม่ดี แถมบริเวณโดยรอบก็เต็มไปด้วยบ้านร้างน่ากลัว ๆและยังมีเรื่องเล่าเก่าแก่ที่สร้างความน่าหวาดผวา
          จนถึงปัจจุบันคงจะหนีไม่พ้นเรื่องราวของ "ลิฟท์ตึก 3" ที่สามารถใช้งานได้อย่างปกติ แต่เมื่อตกกลางคืนลิฟท์ตัวนี้จะเปิดประตูเองทั้ง ๆที่ไม่มีใครกด และหากมีใครกดลิฟท์มันก็จะไม่เปิดให้ตามชั้นที่กดโดยเฉพาะชั้น 5 ของคณะนิติศาสตร์ เคยมีคนเห็นผู้หญิงใส่ชุดขาวอยู่ภายในกระจกลิฟท์




5. เสียงร้องไห้ปริศนาในห้องน้ำชาย

          เสียงร้องไห้ปริศนาในห้องน้ำชายเรื่องเล่าสุดสยองจากโรงเรียนประถมกลางใจเมืองนนทบุรีแห่งหนึ่งว่ากันว่ามีห้องน้ำที่ถูกปิดตาย เล่ากันว่าห้องน้ำแห่งนี้จะมีเสียงร้องไห้ปริศนา
          นอกจากนี้ยังมีคนเห็นวิญญาณเด็กผู้หญิงร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ในกระจก และยังมีประวัติว่า ที่ดินแห่งนี้เคยเป็นโรงพยาบาลมาก่อน จึงมีวิญญาณอาฆาตแค้นอยู่ทั่วบริเวณ




6. ใครอยู่บนคาน

          ช่วงกีฬาสีเป็นอีกช่วงเวลาที่นักเรียนหลายคนต้องอยู่ทำกิจกรรมของโรงเรียนจนมือ ซึ่งผู้นำกลุ่มเชียร์หลีดเดอร์มักจะเล่าเรื่องหลอนส่งต่อกันเป็นทอด ๆโดยเฉพาะเรื่องหลอนของโรงอาหาร
          ในขณะที่กลุ่มเชียร์หลีดเดอร์กำลังซ้อมกันอยู่ที่โรงอาหาร มีเพียงเสียงนักเคาะจังหวะแค่อยู่ ๆคนที่ขึ้นบนยอดสุดของการต่อตัวก็กรีดร้องดังลั่น ทุกคนจึงหันมามองเห็นผู้หญิงผมยาวคนหนึ่ง เนื้อตัวขาวซีด ใส่ชุดขาว กำลังจ้องมองลงมาปรบมือให้ ทำเอาทุกคนขวัญกระเจิง หนีออกจากโรงอาหารกันหมด จนทุกวันนี้มีน้อยคนนักที่จะกล้ามองขึ้นไปบนคานเวลาซ้อม








7. เรื่องหลอนอาคาร 6

          มีเรื่องเล่าว่าบริเวณอาคาร 6 ของโรงเรียนดังย่านปากเกร็ดเคยเป็นศาลาพักศพมาก่อน จึงเป็นเหตุให้ที่นี่ต้องมีการทำบุญตึกกันทุก ๆวันอังคาร





          ว่ากันว่าเคยมีครูคนหนึ่งเลิกงานดึก ขณะกำลังเดินลงมาจากตึกพบเด็กนักเรียนคนหนึ่งนั่งร้องให้อยู่ตรงทางเดิน ด้วยความเป็นห่วงครูจึงเค้าไปถามว่า ทำไมยังไม่กลับบ้าน เมื่อเด็กคนนั้นหันมา ครูตกในจนแทบจะสิ้นสติ น้ำตาของเด็กคนนั้นไหลออกมาเป็นเลือด และเมื่อสังเกตุดี ๆก็เห็นว่าป้ายที่เด็กคนนั้นนั่งอยู่ติดกับผนัง ซึ่งไม่มีทางที่คนจะขึ้นได้




8. คุณครูนาฏศิลป์





          เรื่องหลอนของโรงเรียนรัฐบาลชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร เคยมีคุณครูสอนนาฏศิลป์ที่เคร่งครัดเข้มงวด มีชื่อเสียงโดดเด่นในเรื่องการรำเป็นอย่างมาก
          วันหนึ่งครูป่วยหนักจนต้องรักษาตัวเข้าที่โรงพยาบาล แต่ด้วยการที่ครูรักในอาชีพอย่างมาก ทำให้คุณครูหนีออกจากพยาบาลเพื่อมาฝึกซ้อมให้เด็ก ๆในการแข่งขันรำไทย ทำให้อาจารย์ทรุดลงต้องกลับไปนำยาที่ลืมไว้ในห้องนาฏศิลป์
          เช้าวันต่อมาก็ทีคนไปพบศพครู นับจากแต่นั้นทุกครั้งที่มีคนพยายามจะเข้ามาในห้องก็จะมีเสียงดนตรีไทยดังขึ้น และยังเห็นคนมารำในห้องนั้นอีกด้วย




9. เสียงส้นสูงในห้องน้ำ

          มีเรื่องเล่าว่า มักจะมีคนได้ยินเสียงรองเท้าส้นสูง เดินวนเวียนไปมาอยู่ในห้องน้ำไปเรื่อย ๆไม่ยอมหยุด เชื่อกันว่าอาจเป็นวิญญาณของผู้หญิงที่โดนฆ่าตายในที่แห่งนี้ แถมตอนเธอตายเธอก็ได้สวมรองเท้าส้นสูงอยู่ด้วย



โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เรื่องย่อ "อิเหนา"

9 เรื่องเล่าหลอนโรงแรมเฮี้ยนทั่วญี่ปุ่น

10 หนังสุดต้อนรับวัน Halloween